เนื้อหมู-ไก่ เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่มีไขมันดี มีโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ

การันตีด้วยสัญลักษณ์
“อาหารรักษ์หัวใจ”

จากมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในบรมราชูปถัมภ์ ว่า ยูฟาร์ม
เป็น หมู-ไก่ ที่ผ่านเกณฑ์คุณค่าทางโภชนาการ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้

เพราะเราเลี้ยงหมู-ไก่ด้วย “Superfoods” ทำให้หมู-ไก่ Healthy เติบโตแข็งแรง
จึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ และสารเร่งโตตลอดการเลี้ยงดู และที่สำคัญยังมีโอเมก้า 3 สูง จากธรรมชาติ
การันตีคุณภาพและมาตรฐาน ด้วยรางวัลและตราการันตีระดับโลก

U Farm ฟาร์มจาก นวัตกรรมธรรมชาติ 100% Natural U Farm ฟาร์มจาก นวัตกรรมธรรมชาติ 100% Natural

U FARM เลี้ยงหมู-ไก่ ด้วยนวัตกรรมธรรมชาติ

เลือกเป็น...เน้นธรรมชาติ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและครอบครัว
U FARM จึงใส่ใจในรายละเอียดการเลี้ยง ให้หมู-ไก่กินหรูอยู่สบาย

ชีวาพอร์ค...หมูดีมีโอเมก้า 3

เพราะเราเลี้ยงหมูด้วย Superfoods จึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ และสารเร่งเนื้อแดงตลอดการเลี้ยงดู ทำให้มีโอเมก้า 3 สูง

เบญจา ชิกเก้น ไก่เฮลท์ตี้ต้องเนื้อสีอมชมพู

ครั้งแรกของโลก!!! ที่เลี้ยงไก่ด้วย Superfoods เนื้อไก่จึงมีกลิ่นหอม เนื้อนุ่ม ฉ่ำ

Superfood คือ?

“อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
และ มีประโยชน์ต่อร่างกาย”

Benja Chicken
Cheeva Pork

หมู-ไก่ กิน Superfood ดียังไง?? หมู-ไก่ กิน Superfood ดียังไง??

ได้รับรางวัลอินเตอร์เนชั่นแนลอะไรบ้าง? ได้รับรางวัลอินเตอร์เนชั่นแนลอะไรบ้าง?

NSF
ตรารับรองการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ
ตลอดการเลี้ยงดูจาก NSF
Thaifex Anuga Asia 2020
หมูชีวา ได้รางวัลชนะเลิศ
สุดยอดนวัตกรรม
Thaifex Anuga Asia 2020
SUPERIOR TASTE AWARD
ไก่สดเจ้าแรกในไทย ที่ได้ตรารับรอง
SUPERIOR TASTE AWARD
จากเบลเยี่ยม ไก่เบญจา คว้ารางวัล
3 ปีซ้อน และได้ 3 ดาว ในปี 2023

สินค้าของ UFarm มีอะไรบ้าง 100% Natural สินค้าของ UFarm มีอะไรบ้าง 100% Natural

CHEEVA PORK


ชีวา พอร์ค

มีจำหน่ายแล้วที่

BENJA CHICKEN


ไก่สดเบญจา

มีจำหน่ายแล้วที่

CAGE FREE EGG


ไข่ไก่สดคุณภาพ

มีจำหน่ายแล้วที่

OCHA EGG


ไข่ไก่สดโอชา

มีจำหน่ายแล้วที่

BENJA EGG


ไข่ไก่สดโอเมก้า 3

มีจำหน่ายแล้วที่

EVENTS & ACTIVITIES


กิจกรรม อัพเดท

ซีพีเอฟจับมือ ม.มหิดล ชูนวัตกรรมอาหารแทนยา ลดความเสี่ยงโรคหัวใจโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก จากข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่า ในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 19.8 ล้านคน คิดเป็น 32% ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลกในจำนวนนี้ 85% เสียชีวิตจากโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งมากกว่า 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางขณะที่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (อายุต่ำกว่า 70 ปี) จากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือกลุ่มโรค NCDs อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคไต มะเร็ง และโรคทางพันธุกรรม กลับมีจำนวนมากถึง 18 ล้านคนในปี 2564 ใน 38% เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม โรคหัวใจและหลอดเลือดส่วนใหญ่นั้นสามารถป้องกันได้ ด้วยการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (รวมถึงเกลือ น้ำตาล และไขมันส่วนเกิน) และโรคอ้วน การขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก และมลพิษทางอากาศเปิดฉากประชุมนานาชาติล่าสุด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ หนึ่งในภาคเอกชนผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทย ได้ร่วมงานประชุมวิชาการนานาชาติ สภาพแวดล้อมการทำงานและโรคหัวใจและหลอดเลือดครั้งที่ 8 (The 8th International Conference on Work Environment and Cardiovascular Diseases (ICOH-CVD) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20-22 สิงหาคม 2568 ณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลมีผู้เข้าร่วมประชุม 200 คน จาก 27 ประเทศทั่วโลก โดยมี ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดี และ รศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธาน รศ.ดร.สราวุธกล่าวว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนและผลิตภาพทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญจะเห็นว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน เกิดความเครียดสะสม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดรศ.ดร.สราวุธ เทพานนท์การประชุมทางวิชาการครั้งนี้ ถือเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ และข้อมูลระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาอาชีพ เกี่ยวกับปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อให้เกิดโรค CVDs ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อที่จะนำมาสู่การกำหนดมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับลดปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะการพัฒนาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีสภาพดีขึ้นสำหรับประชาชน“เรามองถึงผลลัพธ์ว่าการประชุมครั้งนี้ จะทำให้เกิดความตระหนักและความเข้าใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสาขาวิชาชีพ ในการศึกษาวิจัยเพื่อเสนอร่างนโยบายในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการสร้างแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานต่อไป”คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยึดหลัก “3P” เพื่อการพัฒนาสุขภาวะของประชาชน ประกอบด้วย การป้องกัน (Prevention), ส่งเสริม (Promotion) และปกป้อง (Protection) หลักการ 3P นี้ ถือเป็นแนวทางหลักของคณะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างสังคมที่มีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น“เรื่องเหล่านี้เป็นวิชาการบ้าน ๆ ที่เราต้องประยุกต์ใช้ให้เป็น สำคัญสุดคือ ทุกฝ่ายต้องทำให้เข้าถึงประชาชนให้ได้” รศ.ดร.สราวุธกล่าวและย้ำว่า การที่เราได้เป็นเฟรนด์ (Friend) ทำงานร่วมกับซีพีเอฟ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอาหารถือเป็นโอกาสที่ดี เพื่อร่วมกันพัฒนาให้อาหารบ้านเรามีคุณภาพและเข้าถึงได้จริง ๆ ซึ่งทั้งหมดคือ Health นั่นเอง“ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เราต้องเริ่มจากเรื่องอาหาร และใช้ชีวิตหรือมีพฤติกรรมการกินการอยู่แบบปกติ เพียงแต่ให้เข้าใจข้อดี ข้อเสียของอาหารแต่ละชนิด ทั้งรู้จักวิธีการปรุงให้เหมาะสม และต้องเน้นความสะอาด ความปลอดภัยเป็นหลัก ไลฟ์สไตล์กับการทำงาน ต้องมีเส้นแบ่งที่พอดี ชีวิตต้องไม่เครียด แล้วทุกอย่างจะเสริมกัน”เลือกอาหารให้หลากหลาย ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาเครือข่าย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เสริมว่า พฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งไม่ใช่โรคติดต่อ ทุกคนสามารถเลี่ยงได้ โดยให้ทำ 5 สิ่งนี้ คือ1. จะกินหวาน เค็ม มัน ก็ไม่เป็นไร แต่อย่ากินต่อเนื่อง หรือกินซ้ำ ๆ2. ต้องออกกำลังกาย3. ต้องดื่มน้ำ4. ผ่อนคลายความเครียด5. อย่าสูบบุหรี่ และดื่มของมึนเมา“คนเป็นโรคความดันสูงเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าปกติถึง 11 เท่า โรคเบาหวานมีความเสี่ยงเพิ่ม 3 เท่า ใครเป็นโรคเหล่านี้ยิ่งต้องดูแลตัวเอง”นสพ.ดร.มนูศักดิ์ วงศ์พัชรชัยมุ่งพัฒนาอาหารนสพ.ดร.มนูศักดิ์ วงศ์พัชรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมวิจัยด้านไบโอเทค กล่าวว่า CPF มุ่งมั่นยกระดับสุขภาพของทุกคน ด้วยอาหารที่ดี สะอาด เข้าถึงง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมอาหารเพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง การประชุมครั้งนี้บริษัทได้เสนองาน 2 ส่วน คือ ด้านความปลอดภัยอาหาร (Food Safety) และการพัฒนาอาหารทางเลือก (Functional Food)ดังตัวอย่างเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 บริษัทได้พิชิตเป้าหมายการส่งไก่ไทยไปอวกาศได้แล้ว ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยสุดหินจาก NASA ครอบคลุมถึงนวัตกรรมโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ อย่างไข่ไก่ U FARM เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคให้มีสุขภาพที่ดี ตามหลักการอาหารแทนยา (Food as Medicine)“เราไม่ได้ขายแค่อาหาร แต่เรากำลังส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกคำที่กิน นอกจากเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว เรายังใส่ใจคุณค่าทางโภชนาการของอาหารด้วย เพราะคนไทย กินหมู กินไก่ กินไข่กันทุกวัน แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือ ถ้าอาหารประจำวันเรามีสารอาหารที่ดีต่อหัวใจ อย่างไข่ไก่ U FARM มีโอเมก้า 3 สามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ ผู้บริโภคเพียงแค่กินของเดิม แต่สุขภาพดีขึ้น”

บริจาคเลือดสภากาชาด รับข้าวกล่องแบบคลีนๆ เมนูหมูชีวา-ไก่เบญจามีโอเมก้า 3 เพราะการให้เลือด คือการให้ที่ยิ่งใหญ่ และดีต่อใจซีพีเอฟ ผนึกสภากาชาดไทย จัดกิจกรรม U Farm x Thai Red Cross "คลีนที่ฟาร์ม..ดีที่ใจ" วันที่ 25 - 27 ก.ย. 2568 ได้รับเกียรติจาก คุณแอน ทองประสม และคุณหมอแล็บแพนด้า อินฟลูดังฯ ร่วมบริจาคเลือด พร้อมแจกข้าวกล่อง 3 เมนูเด็ดจาก “ตับ” หมูชีวาไก่เบญจา ที่เป็นหมูคลีนและไก่คลีน ตรา U Farm เสิร์ฟคุณค่าทางอาหารพร้อมรสชาติแสนอร่อยวันที่ 25 ก.ย. 2568 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ) ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรม U Farm x Thai Red Cross "คลีนที่ฟาร์ม..ดีที่ใจ" โดยมีนางศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการค้าธุรกิจในประเทศ ซีพีเอฟ และคณะ พร้อมด้วยนางจิราพร ศรีสอ้าน ผู้อำนวยการสำนักสารนิเทศและสื่อสารองค์กร สภากาชาดไทย นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กรศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ดาราและผู้จัดชื่อดังอย่าง คุณแอน ทองประสม และนายภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือหมอแล็บ แพนด้า KOL และพนักงานซีพีเอฟเข้าร่วมแคมเปญ U Farm x Thai Red Cross "คลีนที่ฟาร์ม..ดีที่ใจ" เกิดจากนโยบายซีพีเอฟที่มุ่งชูจุดเด่นของ “นวัตกรรมอาหารเป็นยา” โดยมีผลิตภัณฑ์ U Farm หมูชีวาไก่เบญจา ที่เป็นหมูคลีนและไก่คลีน และยังที่มีสินค้าใหม่! ตับหมูชีวาและตับไก่เบญจาอีกด้วย ที่ได้มาตรฐานปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู จึงมั่นใจได้ว่าไร้สารตกค้างแม้กระทั่งในตับ หมูคลีนและไก่คลีน การันตีด้วยผลตรวจสารตกค้างจากสถาบัน SGS และการเลี้ยงด้วยซุปเปอร์ฟู้ดส์ ทำให้มีโอเมก้า3 ในปริมาณสูงกว่าเนื้อไก่ หมู ทั่วไป จึงมีส่วนช่วยบำรุงสมองและหัวใจเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยทางซีพีเอฟจึงได้จัดกิจกรรม U Farm x Thai Red Cross "คลีนที่ฟาร์ม..ดีที่ใจ" นี้ขึ้น โดยนำข้าวกล่องทั้งผัดพริกแกง และทอดกระเทียม ที่ปรุงด้วยตับหมูชีวา ตับไก่เบญจา หมูคลีนและไก่คลีน จำนวน 2,000 กล่อง มาแจกให้กับประชาชนทั่วไปที่เข้ามาบริจาคเลือด เป็นรอบๆ ระหว่างเวลา 09:00 – 14:00 น. เพื่อนำเลือดไปช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไปสำหรับสินค้าหมูสด ไก่สด และไข่ไก่สด ภายใต้ชื่อ หมูชีวา ไก่เบญจา ไข่ไก่เบญจา หมูคลีนและไก่คลีน U Farm เป็นนวัตกรรมที่ซีพีเอฟพัฒนาขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยด้วยอาหาร เป็นแบรนด์อาหารแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ได้รับการรับรองตรา อาหารรักษ์หัวใจ อีกทั้งไก่เบญจายังได้รับรางวัล Cystal Award เป็นรางวัลแรกของไก่สดในภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับ Superior Taste Award จาก International Taste Institute ถึง 3 ปีซ้อนและล่าสุดในเดือนกันยายนนี้ U Farm ได้เริ่มจำหน่ายสินค้าใหม่ ตับหมูชีวา และ ตับไก่เบญจา ชิ้นส่วนที่มีธาตุเหล็กและวิตามินสูง เป็นครั้งแรก ช่วยให้ผู้บริโภคมีสินค้าที่ตอบโจทย์สุขภาพ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร

หมูชีวา ความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ประชากรโลกมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอประโยชน์และงานวิจัยของโอเมก้า 3 สารอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในงานสัมนาวิชาการInternational Conference for Public Health, Environment, and Education for Sustainable Development Goals and Lifelong learning จัดโดยคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในวันที่ 28 กันยายน 2566จากความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ประชากรโลกมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการวิจัยและพัฒนาอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพอย่าง หมูชีวา หรือ Cheeva Pork ถือเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่พัฒนาตั้งแต่สายพันธุ์ อาหารที่เลี้ยง ตลอดจนวิธีการเลี้ยง เพื่อให้มีโอเมก้า 3 สูง โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงความปลอดภัยทางอาหาร ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงทางอาหารและการบริโภคอย่างยั่งยืนโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่หลากหลายและจำเป็นต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารอื่นๆโอเมก้า 3 จำเป็นต่อร่างกายซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบหัวใจหลอดเลือดและสมองมีงานวิจัยพบว่า การได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ จะช่วยช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดการอักเสบ ซึ่งการอักเสบเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงการพัฒนาของกลุ่มโรคทางระบบประสาทและสมอง เช่น อาการสมองเสื่อม ความจำเสื่อมการยกระดับอาหารไทยไปอีกขั้น เพื่อให้โอเมก้าที่ปกติพบในแซลมอน สามารถเข้าถึงได้ง่ายในเมืองไทยโดยเนื้อหมู เนื้อสัตว์ที่คนไทยทานทุกมื้อกลายเป็นแหล่งโอเมก้าใหม่ในราคาที่เข้าถึงถึงได้นั้น มีกระบวนการศึกษา วิจัย ที่หลากหลายและใช้เวลาหลายปี เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ แต่สิ่งที่สำคัญคือการศึกษามุ่งเน้นไปที่การให้หมูสะสมโอเมก้า3 ด้วยวิธีการเลี้ยงตามธรรมชาติ โดยการพัฒนาสูตรอาหารให้อุดมไปด้วยแหล่งอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น แฟล็กซีด สาหร่ายทะเลน้ำลึก หมูจึงสะสมโอเมก้า 3 จากแหล่งอาหารธรรมชาติ นอกจากนี้ หมูชีวายังได้การรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ จากการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี่ยงดู ในระบบคลีนฟาร์ม ดังนั้นหมูชีวาจึงกลายเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ใหม่ที่ปลอดภัย และยังช่วยดูแลสุขภาพเชิงป้องกันของคนไทยได้หมูชีวา หมูมีโอเมก้า 3 สามารถหาซื้อได้แล้วในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป รวมถึงช่องทาง CP Online Shop ใน Shopee และ Lazada อีกด้วย

100% Natural เลือกเป็น... เน้นธรรมชาติ